<<< รวมวีดีโอสอน | Home | |||||||||||||||||||||||||||||||||||
คนมีความรู้เพิ่มขึ้นเป็น |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
"ฝึกสมองให้ไบร์ท" กลับด้านบน |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ต่อไปนี้เป็นข้อแนะนำสำหรับการฝึกสมองให้ไบรท์หรือเฉลียวฉลาดขึ้นค่ะ น่าจะเป็นประโยชน์สำหรับวัยเรียนและสำหรับคนทำงานที่ใช้สมองจนอ่อนล้าไปมากแล้วส่วนว่าจะ |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
"5 เทคนิคเรียนเก่งระดับเทพ" กลับด้านบน |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
เป็นเทคนิคเรียนเก่งระดับเทพ ที่จะแนะนำเกี่ยวกับการทำความเข้าใจและจดจำบทเรียนซึ่งเป็นเทคนิคเรียนเก่งง่าย ๆ ที่ น้องๆนักเรียนทุกคน สามารถนำไปประยุกต์ใช้กับตัวเองได้ หัวใจของเทคนิคการเรียนเก่งเทคนิคนี้ คือต้องทำตามขั้นตอนอยู่เสมอๆ เชื่อเหลือเกินว่าหากทำได้ดังนี้แล้วเกรดที่อยากได้คงไม่ไกลเกินเอื้อม มาดูกันเลยดีกว่าว่าควรทำอย่างไรบ้างเริ่มต้นกันด้วย 1.หาเวลาในการอ่านทบทวนบทเรียน และ เวลาอ่าน ให้อ่านอย่างตั้งใจ และ ทำความเข้าใจกับสิ่งที่อ่าน การอ่านหนังสือไปเรื่อย ๆ หรือ อ่านเอาปริมาณ เป็นการอ่านหนังสือที่ไม่มีคุณภาพ และ เท่ากับว่าเสียเวลาไปโดยเปล่าประโยชน์ 2.เมื่ออ่านหนังสือเสร็จแล้ว ให้ลองเปิดหนังสือแล้วสรุปสิ่งที่อ่านมา ตามความเข้าใจของเราให้ตัวเองฟังอีกครั้ง หรืออีกครั้ง แล้วลองดูว่าเราสามารถเข้าใจจากสิ่งที่เราสรุปได้หรือไม่ หากฟังแล้วรู้สึกว่าทำไมไม่ค่อยเข้าใจก็ให้อ่านอีกครั้ง แล้วสรุปอีกรอบ หากรู้สึกว่าเข้าใจแล้วให้ อ่านส่วนอื่นๆ ต่อไปได้ 3.ถามตัวเองว่าเข้าใจสิ่งที่อ่านอยู่หรือเปล่า อย่าอ่านผ่านๆไปจนจบแล้วก็ยังงงๆว่าอ่านอะไรไป เพราะการอ่านด้วยความเข้าใจจะสามารถส่งผลดีกว่าการอ่านเพื่อความจำเพียงอย่างเดียว เทคนิคเรียนเก่ง เทคนิคนี้ ง่ายมากๆ เลยหล่ะ 4.ถามหากไม่เข้าใจ หากอ่านไปแล้วเจอในส่วนที่เราไม่เข้าใจ หาคำตอบไม่ได้ หรือ อ่านหลายรอบต่อหลายรอบแล้วก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี ให้เราจดคำถาม หรือ ปัญหา ที่พบเจอ ไปถามอาจารย์ เพื่อหาคำตอบ เมื่อได้คำตอบมากแล้วก็ให้ทำความเข้าใจอีกครั้งหนึ่งด้วย 5.จำในส่วนสำคัญให้แม่น ข้อมูลจำเพาะเจาะจงบางอย่างก็ควรต้องทำความเข้าใจ และต้องจำให้แม่น เช่นสูตรการคำนวนหากค่าของสิ่งของต่างๆ |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
"4 วิธีเรียนเก่ง ความลับง่ายๆ" กลับด้านบน |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1. ต้องแบ่งเวลาให้เป็น |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
"1 วันมี 24 ชั่วโมงจริงหรือ" กลับด้านบน |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ตามที่เราเข้าใจกัน 1 วันคือเวลาที่โลกหมุนรอบตัวเอง 1 รอบ (ตามความเข้าใจ 24 ชั่วโมง) และการเกิดน้ำขึ้น น้ำลงในมหาสมุทรต่างๆ ก็ก่อให้เกิดแรงเสียดทาน กับขั้วโลกที่รองรับ เป็นผลให้โลกหมุนช้าลงวันละ 1/23 ล้านวินาที และจากการศึกษาปะการังโบราณ ก็พบความแตกต่างของเวลสว่า เมื่อ 400 ล้านปีก่อน 1 วันมีเพียง 22 ชั่วโมงเท่านั้น และแม้กระทั่งปัจจุบัน โลกก็ใช้เวลาหมุนรอบตัวเองจริงๆ เพียง 23 ชั่วโมง 56 นาที 4 วินาที ดังนั้นจึงต้องใช้เวลาอีกประมาณ 15 ล้านปี ใน 1 วันจึงจะมี 24 ชั่วโมงอย่างแท้จริง แต่ก็พออนุโลมได้ว่า 1 วัน มี 24 ชั่วโมง ก็คงจะไม่แปลกอะไร ที่มา: หนังสือ 108 ซองคำถาม เล่ม 3 |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
"วัยรุ่นไอคิวสูง....มีเซ็กว์ช้า" กลับด้านบน |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
อาจเพราะมีสิ่งที่น่าสนใจมากกว่า วัยรุ่นไอคิวสูงจึงมีเซ็กซ์ช้า เอ...ทำไมเซ็กส์จึงเกี่ยวข้องกับความฉลาดด้วยล่ะ อย่าเพิ่งแปลกใจเพราะจากการศึกษาของนักวิชาการหลายสำนักในอเมริกาซึ่งทำในระหว่างปี 2000-2005 ต่างเห็น |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
"ผลไม้เสริมความจำ" กลับด้านบน |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
การรับประทานผลไม้รสเปรี้ยวอย่างองุ่นและบลูเบอร์รี่เป็นแหล่งอุดมไปด้วย วิตามินซี ที่ช่วยให้ร่างกายสดชื่นกระปรี้กระเปร่า แต่ประโยชน์ของผลไม้ทั้งสองชนิดไม่ได้มีเพียงเท่านี้ เพราะจากการศึกษาโดยทีมวิจัยแห่งมหาวิทยาลัยซินซินนาติ สหรัฐอเมริกาพบว่า องุ่นพันธุ์คองคอร์ดและบลูเบอร์รี่ป่าช่วยให้ความจำดีขึ้นได้ ทีมวิจัยได้ทำการศึกษากับผู้สูงอายุ 2 กลุ่มที่มีปัญหาด้านความจำตามวัย พบว่ากลุ่มผู้สูงอายุ 12 คนที่ดื่มน้ำองุ่นคองคอร์ดเป็นประจำนาน 3 เดือนเริ่มมีความจำดีขึ้น เพราะน้ำองุ่นคองคอร์ดมีผลต่อการส่งสัญญาณประสาท กระตุ้นความจำ รวมทั้งมีสารโพลีฟีนอลที่มีคุณสมบัติช่วยต้านอนุมูลอิสระและต้านการอักเสบ ด้วย ส่วนกลุ่มผู้สูงอายุ 9 คนที่ดื่มน้ำบลูเบอร์รี่ป่าต่อเนื่องนาน 3 เดือน พบว่าความจำเริ่มเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดี เพราะสารแอนโทไซยานินในบลูเบอร์รี่ป่าไปช่วยเพิ่มสัญญาณเส้นประสาทบริเวณ สมองส่วนกลางและลดอัตราการเสื่อม ของเส้นประสาท จากงานวิจัยทั้งสองชิ้นทำให้ได้ข้อสรุปว่า น้ำองุ่นและน้ำบลูเบอร์รี่ไม่เพียงแค่แก้กระหายเท่านั้น แต่ยังช่วยเรื่องสมองและความทรงจำได้อีกด้วย ขอขอบคุณข้อมูลจาก : สาระน่ารู้.com |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
"นั่งขีดเขียนเล่นๆ ทำให้สมองตื่นตัวตลอดเสมอ" กลับด้านบน |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
นักวิจัยได้ค้นพบว่า การขีดเขียนอะไรเล่น ๆในห้องเรียนหรือในห้องประชุมทำให้สมองตื่นและความจำดี คณะนักวิจัยมหาวิทยาพลี มัธ ได้ ทดลองทดสอบความจำกับอาสาสมัครซึ่งเป็นนักวิทยาศาสตร์ด้วยกัน 40 คน โดยให้คอยรับโทรศัพท์ และให้จำชื่อกับสถานที่เอาไว้ ปรากฏว่าคนที่ชอบขีดเขียนอะไรเล่น ๆ ไปด้วยจะจำได้ดีกว่าถึงร้อยละ 29 ผู้เชี่ยวชาญอธิบายว่า การขีดเขียนมันป้องกันไม่ให้เกิดหลับใน ซึ่งมักจะทำให้ความสนใจถูกหันเหไป และยังช่วยให้คนยังคงจดจ่ออยู่กับสิ่งที่น่าเบื่อหน่ายอยู่ได้ แจ๊คกี้ แอนเดรด หัวหน้านักวิจัยกล่าวว่า 'ไม่ว่าใครหากทำงานอันน่าเบื่อ อย่างเช่นรับฟังเรื่องสนทนาทางโทรศัพท์ที่น่าเหนื่อยหน่าย มักจะหลับใน การฝันกลางวันทำให้ลืมเรื่องงานไป ทำให้เสียงาน การขีดเขียนอะไรง่าย ๆ ทำให้ไม่หลับ |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
"เทคนิคเพิ่มความฉลาด" กลับด้านบน |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ใครที่รู้สึกว่าสมองอ่อนล้า เฉื่อย ชา และความจำถดถอย เรามีวิธีเพิ่มประสิทธิภาพในการจดจำให้กับสมองมาฝาก... 1. บริหารสมองอยู่เสมอ 2. กินยาเสริมความจำ 3. กินผักและผลไม้สด 4. ลดปริมาณแอลกอฮอล์ 5. ออกกำลังกาย 6. จดบันทึกช่วยจำ 7. ทำสมาธิ |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
"ทำไมคนฉลาดจึงตัดสินใจโง่ๆ" กลับด้านบน |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
มีข้อคิดที่อยากจะฝากพวกเราคือ คนคนเดียวกันเวลาต่างกันความเฉลียวฉลาดไม่เท่ากันขึ้นอยู่กับว่าในขณะนั้นใจเขานิ่งขนาดไหน ขณะเดียวกันคนสองคนถ้าบอกว่า คนหนึ่งหัวดีกว่าอีกคนหนึ่ง ฉลาดกว่าอีกคนหนึ่ง ก็ไม่แน่เสมอไป เราพบว่าในบางสถานการณ์ นาย ก ก็ดูเหมือนฉลาดกว่านาย ข ถ้ารบกันก็ชนะ แต่บางครั้งนาย ข ก็กลับฉลาดกว่านาย ก ได้ ถามว่าเป็นเพราะอะไร ตรงนี้สำคัญ คนจำนวนมากมองข้าม จึงมองจุดบกพร่องของตัวเองไม่ออก เราต้องเข้าใจอย่างนี้ก่อนว่า ในสถานการณ์หนึ่ง เมื่อพิจารณาด้วยดีแล้วผู้มีปัญญาก็มองออกว่า ควรตัดสินใจอย่างไรที่จะให้ผลดีที่สุด แต่ถ้าเมื่อใดก็ตามที่ใจของเขาถูกกิเลสเข้าครอบงำ จะเป็นด้วยความอยากเด่นอยากดังก็ตาม ด้วยความระแวงก็ตาม ด้วยความอวดดื้อถือดีก็ตาม เขาก็จะตัดสินใจไปอีกแบบ ทั้งที่จริง ๆ ตนเองก็รู้ว่าตัดสินใจอย่างนี้ไม่ถูก มันควรต้องตัดสินใจอีกแบบ แต่เพราะว่าการตัดสินใจอีกแบบที่ถูกต้อง มันมาขัดกับกิเลสที่เข้าครอบงำอยู่ ถ้าทำอย่างนั้นแล้วเดี๋ยวมันไม่เด่นมันไม่ดัง ก็เลยไปเลือกทำอีกแบบที่คิดว่ามันจะเด่นมันจะดัง เลือกทำอีกแบบที่เป็นลักษณะการมีทิฏฐิอวดดื้อถือดี ปัญญาที่มีจึงเหมือนไม่มี เพราะไม่เลือกทำตามที่ปัญญาเห็น แต่กลับไปทำตามที่กิเลสสอน สุดท้ายก็พลั้งพลาดเสียทีไป ใครเคยอ่านสามก๊ก คงจะจำบังทองได้ เป็นศิษย์ร่วมอาจารย์กับขงเบ้ง ท่านว่ามีความฉลาดทัดเทียมกันเลย แต่สุดท้ายบังทองเพิ่งจะนำทัพออกรบช่วยเล่าปี่แค่ยกสองยกก็ตายเสียแล้ว ก่อนจะบุกเสฉวนก็ตายเสียก่อน ถูกข้าศึกวางกลลวงล้อมยิงด้วยเกาทัณฑ์จนตายถามว่ามือขนาดบังทองฉลาดแสนฉลาด ทำไมถูกกลศึกลวงเอาง่าย ๆแบบนั้น คำตอบเป็นเพราะความแข่งดีอยากจะเอาหน้าเอาตา ให้เหนือกว่าขงเบ้ง บังทองรู้สึกว่าตัวเองมาทีหลังขงเบ้ง จึงอยากจะสร้างผลงาน ทั้งที่จริงตนก็รู้ว่าบุกอย่างนี้ไม่ปลอดภัย เสี่ยงมากที่จะถูกกลศึก แต่ทั้ง ๆ รู้ก็ยังฝืนทำ เพราะหวังว่าถ้าสำเร็จจะได้หน้าได้ตา สุดท้ายก็เจอกลศึกข้าศึกจริง ๆ ถูกรุมยิงด้วยเกาทัณฑ์แย่ไปทั้งกองทัพตนเองก็ตายกลางศึก นี่เขาเรียกว่ากิเลสมันมาบังปัญญา ปัญญา ที่มีอยู่ก็เลยเหมือนกับไม่มี โจโฉว่าเก่งแสนเก่งพออวดดื้อถือดีเข้าก็ย่ำแย่เสียหลายตอนบางครั้งสถานการณ์บังคับเตรียมจะสั่งถอยทัพอยู่แล้ว แต่เผอิญถูกขุนพลคนหนึ่งที่ตนเองหมั่นไส้อยู่ คือเอียวสิ้ว มารู้ทันความคิดตัวเองก็เลยสั่งจับเอียวสิ้วไปตัดคอเสีย แล้วฝืนไม่ถอยทัพ เพราะมีทิฏฐิจะทำให้เหมือนกับว่าเอียวสิ้วไม่ได้รู้ทันตัวเอง สุดท้ายกองทัพก็เลยย่ำแย่ถูกตีแตก ตนเองก็แทบเอาชีวิตไม่รอด เมื่อถูกทิฏฐิมานะมาบดบัง ปัญญาของโจโฉที่มีก็เหมือนไม่มี เพราะฉะนั้นพวกเราหากต้องการประสบความสำเร็จในชีวิตอย่าให้กิเลสในตัวเป็นเครื่องชี้นำ ไม่ต้องไปแข่งดีกับใครเลย ขอเพียงให้เราตั้งใจสู้กับกิเลสในตัว สำรวจตัวเองให้ดีหมั่นแก้ไขข้อบกพร่องในตัวแก้ข้อบกพร่องตัวเองไปได้มากเท่าไร เราก็จะโดดเด่นขึ้นมา โดยไม่ต้องไปแข่งกับใคร ไม่ต้องไปยกตัวเองขึ้นมาเลย มันจะเด่นขึ้นมาเองไม่ต้องไปสู้กับใครเขาหรอก สู้กับกิเลสในตัวของเรานี่แหละ นี่คือหน้าที่หลักของทุกคน ท่านบอกว่าคนที่รบชนะคนอื่นเป็นร้อย ก็สู้คนที่รบชนะตัวเองคนเดียวไม่ได้ รู้หลักอย่างนี้แล้ว เรามีสติปัญญามากเท่าใดขอให้ใช้ให้เต็มประสิทธิภาพ ไม่ให้กิเลสทั้งหลายมาเป็นจุดอ่อนในตัวเรา จะเป็นทิฏฐิมานะก็ตาม ความอวดดื้อถือดีก็ตาม ความอยากเด่นอยากดังก็ตาม อย่าให้มาบดบังปัญญาของเราได้ เอากิเลสเหล่านี้ออกไป ปัญญาของเราก็จะฉายชัดมากขึ้น ๆ ซึ่งจะทำได้ด้วยการหมั่นทำสมาธิอย่างสม่ำเสมอ จะทำให้มีสติดีและใจมีพลังเอาชนะอำนาจกิเลสในตัวได้ ขอให้พวกเราทุกคนประสบความสำเร็จในการฝึกใจของเราให้เป็นสมาธิตั้งมั่น มีประสิทธิภาพในการประกอบกิจทั้งหลายทั้งทางโลกและทางธรรม ได้สำเร็จกันทุกท่านเทอญ ขอขอบคุณข้อมมูลจาก : หนังสือทันโลกทันธรรม โดย พระมหาดร.สมชาย ฐานวุฑฺโฒ |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
"แคลเซียมอัดเม็ดดีจริงหรือ" กลับด้านบน |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คนมักเข้าใจกันว่า ต้องกินแคลเซียมมากๆ กระดูกจะได้แข็งแรง แต่จากการศึกษาของนักวิชาการ ไฮเคอ บิสชอฟฟ์ เฟอร์รารี จากสถาบันการแพทย์กายภาพ มหาวิทยาลัยซูริก ประเทศสวิตเซอร์แลนด์พบว่า วิตามินดีช่วยป้องกันกระดูกสะโพกหัก แต่แคลเซียมอัดเม็ดไม่อาจลดความเสี่ยงของกระดูกสะโพกหักได้ และในทางตรงกันข้ามยังพบว่าแคลเซียมอัดเม็ดเพิ่มความเสี่ยงกระดูกสะโพกหัก เพราะจากการศึกษาคนชราที่กินแคลเซียมอัดเม็ดเป็นประจำทำให้ร่างกายขาด ฟอสฟอรัส เนื่องจากแคลเซียมสำเร็จรูปขัดขวางการดูดซึมฟอสฟอรัสจากลำไส้ จึงส่งผลให้มีการสลายกระดูก แต่ผลิตภัณฑ์นมมีแคลแซียมและฟอสฟอรัส โปรตีน จึงน่าจะเป็นแหล่งแคลเซียมที่ดีกว่า ดังนั้นการกินแคลเซียมอย่างเดียวจึงไม่ได้เป็นข้อการันตีว่า จะไม่เป็นโรคกระดูกพรุน |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
"คิดยังไงให้เป็นคนเก่ง" กลับด้านบน |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
หลายๆ ครั้งที่ได้เห็นคนเก่งๆ หรือคนที่มีความคิดสร้างสรรค์ พูดถึงแรงบันดาลใจในการคิดการทำสิ่งต่างๆ แล้วรู้สึกทึ่งในแนวความคิดที่แตกต่างจนทำให้สิ่งที่ทำนั้นประสบความสำเร็จ และกลายเป็นแรงบันดาลใจให้กับใครต่อใครอีกหลายๆ คน สิ่งที่น่าสนใจ คือ พวกเขาเหล่านั้นมีพื้นฐานความคิดยังไง และมีวิธีคิดยังไงให้เกิดความแตกต่างและประสบความสำเร็จได้ ... ถ้าคุณอยากเป็นคนเก่งและมีความคิดที่สร้างสรรค์ล่ะก็ วันนี้เรามีวิธีคิดที่จะทำให้คุณ เป็นคนเก่งได้มาฝากกันค่ะ คิดบวกและเชื่อมั่นในความคิดตัวเอง การมองโลกในแง่ดี และตั้งใจทำทุกอย่างอย่างเต็มที่ ด้วยความสดใสเบิกบานกับชีวิต และกระตือรือล้นกับสิ่งใหม่ๆ จะทำให้เราพร้อมที่จะยอมรับกับเหตุการณ์ผ่านเข้ามาในชีวิตอย่างมั่นใจ และเชื่อว่าเราจะผ่านมันไปได้ด้วยดี ความผิดพลาดคือครูของเรา เราจะต้องรู้จักเปิดใจ และมองทุกอย่างตามความเป็นจริง ต้องรู้จักกลับมาคิดทบทวนว่าความผิดพลาดที่เกิดขึ้นกับเรานั้น เกิดจากจุดไหนบ้าง เพื่อที่จะสามารถเริ่มต้นใหม่ได้ดีกว่าเดิม และไม่ผิดพลาดในจุดเดิม อย่าทิ้งสิ่งที่ฝัน ท่องจำให้ขึ้นใจว่าถ้าหากคิดจะทำอะไรต้องทำให้สำเร็จ ต้องสร้างแรงผลักดันให้ตัวเองทำตามความฝันของตัวเองให้สำเร็จให้ได้ มีไอดอลในหัวใจ การมีไอดอลจะทำให้เรามีแรงบันดาลใจและมีแนวทางในการคิด การทำสิ่งต่างๆ และนำจุดเด่นในตัวของไอดอลของเรามาเป็นแรงผลักดันให้เราทำตามความฝันได้ คนเราทุกคนย่อมมีไฟในตัวเอง อยู่ที่ว่าเราจะกล้าจุดมันขึ้นมาเมื่อไหร่แค่นั้นเองถ้าอยากจะเป็นคนเก่ง ต้องกล้าคิด กล้าทำ กล้าลองที่จะแตกต่าง ... แล้วซักวันเราจะพบเส้นทางของเราค่ะ |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
"ของขวัญจากเวลา" กลับด้านบน |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
เราทุกคนมีธนาคารเหมือนกัน ธนาคารแห่งนี้ชื่อว่า เวลา ในแต่ละวัน จะเปิดบัญชีใหม่ให้คุณ ถ้าคุณเสียโอกาสที่จะใช้ระหว่างวัน ผลขาดทุนเป็นของคุณ คุณต้องมีชีวิตอยู่กับปัจจุบัน ด้วยยอดเงินฝากของวันนี้ จะรู้คุณค่าของเวลา 1 ปี ให้ไปถามนักเรียนที่สอบตกต้องซ้ำชั้น ทำทุกขณะที่คุณมี ให้มีค่า และทำให้มีคุณค่ามากขึ้นไปอีก เพราะวันนี้เป็นของขวัญนั่นไง จึงถูกเรียกว่า PRESENT |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||